หนุ่มถูกชนบนทางเท้าไม่ยอม ขอโทษไม่จริงใจ
เลขาฯ รมว.ยุติธรรม รับเรื่องร้องทุกข์ คดีไรเดอร์หัวร้อนขี่รถเฉี่ยวชนคนบนทางเท้า เตรียมประสานเรื่องคดีความให้ถึงที่สุด แนะ คนไม่กลัวกฎหมายเบาควรปรับโทษทำผิดให้แรงขึ้น ถึงขั้นยึดทรัพย์
เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข กระทรวงยุติธรรม ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รับเรื่องร้องทุกข์กรณี นายอิศรา ราษฎร์ทองหลาง อายุ 26 ปี ผู้เสียหาย ที่กำลังเดินออกจากร้านอุปกรณ์ไฟฟ้า แต่กลับถูก นายบุญฤทธิ์ ทองเอี่ยม หรือเต่า หน้ายักษ์ อายุ 20 ปี ไรเดอร์ส่งอาหาร ขี่รถจักรยานยนต์ขึ้นบนทางเท้าเฉี่ยวชนก่อนจะมีปากเสียงกัน จนผู้เสียหายถูกไรเดอร์ทำร้ายร่างกาย เตะผู้เสียหายเข้าที่กกหูจนล้มไปกองกับพื้น เหตุเกิดขึ้นบริเวณทางเท้า ปากซอยสายไหม 78 กรุงเทพมหานคร ส่วนผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.สายไหม พร้อมกับมายื่นคำร้องขอความเป็นธรรมจากกระทรวงยุติธรรมในเรื่องค่าเยียวยาแก่ผู้เสียหายในคดีอาญา
ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต เปิดเผยว่า ในส่วนของกระทรวงยุติธรรมก็เตรียมตรวจสอบสิทธิที่ผู้เสียหายจะได้รับว่ามีอะไรบ้าง ส่วนคดีความตนได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ช่วยทำคดีอย่างตรงไปตรงมา เพราะสังคมให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากกรณีที่มีคนขี่รถมอเตอร์ไซค์ขึ้นบนทางเท้าจนเกิดอุบัติเหตุนั้นไม่ควรเกิดขึ้นในสังคมไทยมานานแล้ว ตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกวดขันเรื่องวินัยจราจรให้มากขึ้น
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาแบบนี้ซ้ำอีก ส่วนเรื่องของบทกฎหมายก็อยากให้เคสแบบนี้มีการดำเนินคดีอย่างรุนแรงให้ถึงที่สุด โดยหากเป็นไปได้ก็อยากให้ผู้ที่กระทำผิดในเคสแบบนี้ถูกยึดทรัพย์ (รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ) เสียด้วยซ้ำ เพื่อที่คราวหลังจะได้ไม่กล้าทำผิดกฎหมายอีก อย่างไรก็ตาม ตนต้องขอขอบคุณชมรมสายไหมต้องรอด ที่คอยช่วยเหลือสังคมและเป็นหูเป็นตาให้กับประชาชนในยามเดือดร้อน
ขณะที่ ผู้เสียหาย ยืนยันว่าเตรียมจะเอาเรื่องกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด โดยจะไม่มีการยอมความแต่อย่างใด พร้อมยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับคนก่อเหตุมาก่อน และสถานที่เกิดเหตุ ตนก็ไปแถวนั้นเป็นครั้งแรก ก่อนจะมาเจอเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว ส่วนคู่กรณีมีท่าทีนิ่งเฉย ไม่ยอมรับผิด โดยอ้างว่าเรื่องเกิดจากตนไปหาเรื่องอีกฝ่ายก่อน ทั้งที่ไม่เป็นความจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บางช่วงบางตอนที่ นายอิศรา ผู้เสียหาย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ยอมรับยังติดใจ พร้อมยืนยันไม่ยอมความ คู่กรณีออกแนวลูกนักเลง ไม่มีความจริงใจในการขอโทษ ซึ่งเหตุการณ์ก็เป็นไปตามคลิป แต่ยังอ้างว่าตนเป็นฝ่ายผิด ไปหาเรื่องก่อน จึงทำให้หัวร้อนลงมือดังกล่าว.